แม้จะมีข่าวลือว่า ซน ฮึง-มิน อาจอำลา สเปอร์ส ในซัมเมอร์นี้ แต่ผลงานซีซั่นล่าสุดยังสะท้อนความสำคัญชัดเจน ทั้งการแอสซิสต์, การสร้างโอกาส และอิทธิพลต่อผลการแข่งขันเมื่ออยู่ในสนามภายใต้สัญญาปีสุดท้าย

จนถึงตอนนี้อนาคตของ ซน ฮึง-มิน กองหน้ากัปตันทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือว่าดาวเตะชาวเกาหลีใต้อาจจะแยกทางกับทีมก่อนเริ่มฤดูกาล 2025-26 ในขณะที่เขาเหลือสัญญากับทีมจนถึงแค่ช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

สำหรับกองเชียร์ สเปอร์ส แล้วนั้น ในมุมหนึ่งมันคงจะเป็นเรื่องน่าใจหายถ้าหาก ซน ออกจากทัพ “ไก่เดือยทอง” หลังจากเขาอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2015, ลงเล่นให้ทีมไป 454 นัดในทุกรายการ, ยิงได้ 173 ประตู และในซีซั่นล่าสุดก็เพิ่งได้ฉลองแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ร่วมกับทีม

ขณะที่อีกมุมหนึ่ง มันก็คงจะมีคนที่มองว่านี่ถึงเวลาที่ทีมอาจจะต้องยอมปล่อย ซน สักที หลังจากปัจจุบันเขามีอายุ 32 ปีแล้ว แถมสภาพร่างกายก็ไม่ดีเหมือนเก่าอีกจนอาจจะไม่สามารถช่วยทีมแบบยาวๆ ได้

แน่นอน เรื่องที่ว่า ซน ควรได้อยู่กับ สเปอร์ส ต่อไปหรือไม่คงขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละคน ซึ่งสิ่งที่เราทำได้มีเพียงการนำเสนอข้อมูลบางอย่างเพื่อเป็นข้อมูลให้กับการตัดสินใจของแต่ละท่าน

เริ่มจากเรื่องการทำประตูซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญของนักเตะในตำแหน่งกองหน้ากันก่อน โดยในฤดูกาล 2024-25 ที่เพิ่งปิดฉากลงไป ซน ทำได้เพียง 11 ลูกจาก 46 นัดในทุกรายการ ซึ่งนับเป็นซีซั่นที่เขาทำประตูให้ สเปอร์ส ได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 1 ได้แก่ฤดูกาล 2015-16 หรือก็คือซีซั่นแรกที่เขาอยู่กับทีม โดยตอนนั้นเจ้าตัวทำไป 8 ลูกจาก 40 นัดในทุกรายการ

นอกจากนี้ หากนับเฉพาะการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ซน ยังมีค่าเฉลี่ยการยิงตรงกรอบแค่ 1.02 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเขากับการเล่นให้ สเปอร์ส รองจากฤดูกาล 2020-21 ที่มีค่าเฉลี่ย 1.01 ครั้งต่อ 90 นาที

อย่างไรก็ตาม ซน ก็มีส่วนช่วยทีมในด้านการผ่านบอลดีมากๆ โดยซีซั่นล่าสุดเขามีค่าเฉลี่ยการแอสซิสต์ต่อนาทีใน พรีเมียร์ลีก อยู่ที่ 0.38 ครั้ง ซึ่งถือเป็นค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อ สเปอร์ส

นอกจากนี้ เขายังมีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์อยู่ที่ 1.9 ครั้งต่อ 90 นาที โดยถือเป็นผลงานดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในการเล่นให้ สเปอร์ส เช่นกัน

ทั้งนี้ หากเจาะลึกลงไปก็จะพบว่าเขาสร้างโอกาสทำประตูในชอตที่มีโอกาสเป็นประตูสูงถึง 0.68 ครั้งต่อ 90 นาทีกับการเล่นในลีกซีซั่นล่าสุด ซึ่งในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด เขาเป็นรองแค่ บูกาโย่ ซาก้า, ดไวท์ แม็คนีล, เควิน เดอ บรอยน์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในด้านนี้ หากนับเฉพาะคนที่ลงเล่นอย่างน้อย 1,000 นาที

ขณะที่หากให้เทียบระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ ซน ลงเล่นเป็นตัวจริง กับเกมที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นในซีซั่นล่าสุดก็จะพบว่า สเปอร์ส ทำผลงานได้ดีสุดๆ เมื่อมีแข้งชาวเกาหลีใต้อยู่ในสนามตั้งแต่วินาทีแรก อย่างเช่นเปอร์เซ็นต์ชนะระหว่าง 41.7% ตอนที่มีเขาเป็นตัวจริงกับ 7.1% ตอนที่เขาไม่ได้เป็นตัวจริง***

เปรียบเทียบผลงานของ สเปอร์ส ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด ระหว่างตอนที่ ซน เป็นตัวจริง กับตอนทีไม่ได้เป็นตัวจริง
เป็นตัวจริง
ไม่ได้เป็นตัวจริง
22
จำนวนนัด
14
41.7%
เปอร์เซ็นต์ชนะ
7.1%
45.8%
เปอร์เซ็นต์แพ้
78.6%
1.4
ค่าเฉลี่ยแต้มต่อ 1 นัด
0.4
2.1
ค่าเฉลี่ยประตูต่อ 1 นัด
1
1.5
ค่าเฉลี่ยประตูที่เสียต่อ 1 นัด
2.1

เรียกได้ว่าช่วงซัมเมอร์ ปี 2025 เป็นช่วงซัมเมอร์ที่สำคัญต่อทั้ง ซน และ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมคนใหม่ของ โธมัส แฟร้งค์ ซึ่งการตัดสินใจเรื่องอนาคตของแข้งเลือดโสมขาวก็อาจจะส่งผลกับเส้นทางของทีมได้เหมือนกัน

แม้จะมีข่าวลือว่า ซน ฮึง-มิน อาจอำลา สเปอร์ส ในซัมเมอร์นี้ แต่ผลงานซีซั่นล่าสุดยังสะท้อนความสำคัญชัดเจน ทั้งการแอสซิสต์, การสร้างโอกาส และอิทธิพลต่อผลการแข่งขันเมื่ออยู่ในสนามภายใต้สัญญาปีสุดท้าย

จนถึงตอนนี้อนาคตของ ซน ฮึง-มิน กองหน้ากัปตันทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือว่าดาวเตะชาวเกาหลีใต้อาจจะแยกทางกับทีมก่อนเริ่มฤดูกาล 2025-26 ในขณะที่เขาเหลือสัญญากับทีมจนถึงแค่ช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

สำหรับกองเชียร์ สเปอร์ส แล้วนั้น ในมุมหนึ่งมันคงจะเป็นเรื่องน่าใจหายถ้าหาก ซน ออกจากทัพ “ไก่เดือยทอง” หลังจากเขาอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2015, ลงเล่นให้ทีมไป 454 นัดในทุกรายการ, ยิงได้ 173 ประตู และในซีซั่นล่าสุดก็เพิ่งได้ฉลองแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ร่วมกับทีม

ขณะที่อีกมุมหนึ่ง มันก็คงจะมีคนที่มองว่านี่ถึงเวลาที่ทีมอาจจะต้องยอมปล่อย ซน สักที หลังจากปัจจุบันเขามีอายุ 32 ปีแล้ว แถมสภาพร่างกายก็ไม่ดีเหมือนเก่าอีกจนอาจจะไม่สามารถช่วยทีมแบบยาวๆ ได้

แน่นอน เรื่องที่ว่า ซน ควรได้อยู่กับ สเปอร์ส ต่อไปหรือไม่คงขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละคน ซึ่งสิ่งที่เราทำได้มีเพียงการนำเสนอข้อมูลบางอย่างเพื่อเป็นข้อมูลให้กับการตัดสินใจของแต่ละท่าน

เริ่มจากเรื่องการทำประตูซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญของนักเตะในตำแหน่งกองหน้ากันก่อน โดยในฤดูกาล 2024-25 ที่เพิ่งปิดฉากลงไป ซน ทำได้เพียง 11 ลูกจาก 46 นัดในทุกรายการ ซึ่งนับเป็นซีซั่นที่เขาทำประตูให้ สเปอร์ส ได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 1 ได้แก่ฤดูกาล 2015-16 หรือก็คือซีซั่นแรกที่เขาอยู่กับทีม โดยตอนนั้นเจ้าตัวทำไป 8 ลูกจาก 40 นัดในทุกรายการ

นอกจากนี้ หากนับเฉพาะการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ซน ยังมีค่าเฉลี่ยการยิงตรงกรอบแค่ 1.02 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเขากับการเล่นให้ สเปอร์ส รองจากฤดูกาล 2020-21 ที่มีค่าเฉลี่ย 1.01 ครั้งต่อ 90 นาที

อย่างไรก็ตาม ซน ก็มีส่วนช่วยทีมในด้านการผ่านบอลดีมากๆ โดยซีซั่นล่าสุดเขามีค่าเฉลี่ยการแอสซิสต์ต่อนาทีใน พรีเมียร์ลีก อยู่ที่ 0.38 ครั้ง ซึ่งถือเป็นค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อ สเปอร์ส

นอกจากนี้ เขายังมีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์อยู่ที่ 1.9 ครั้งต่อ 90 นาที โดยถือเป็นผลงานดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในการเล่นให้ สเปอร์ส เช่นกัน

ทั้งนี้ หากเจาะลึกลงไปก็จะพบว่าเขาสร้างโอกาสทำประตูในชอตที่มีโอกาสเป็นประตูสูงถึง 0.68 ครั้งต่อ 90 นาทีกับการเล่นในลีกซีซั่นล่าสุด ซึ่งในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด เขาเป็นรองแค่ บูกาโย่ ซาก้า, ดไวท์ แม็คนีล, เควิน เดอ บรอยน์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในด้านนี้ หากนับเฉพาะคนที่ลงเล่นอย่างน้อย 1,000 นาที

ขณะที่หากให้เทียบระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ ซน ลงเล่นเป็นตัวจริง กับเกมที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นในซีซั่นล่าสุดก็จะพบว่า สเปอร์ส ทำผลงานได้ดีสุดๆ เมื่อมีแข้งชาวเกาหลีใต้อยู่ในสนามตั้งแต่วินาทีแรก อย่างเช่นเปอร์เซ็นต์ชนะระหว่าง 41.7% ตอนที่มีเขาเป็นตัวจริงกับ 7.1% ตอนที่เขาไม่ได้เป็นตัวจริง***

เปรียบเทียบผลงานของ สเปอร์ส ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด ระหว่างตอนที่ ซน เป็นตัวจริง กับตอนทีไม่ได้เป็นตัวจริง
เป็นตัวจริง
ไม่ได้เป็นตัวจริง
22
จำนวนนัด
14
41.7%
เปอร์เซ็นต์ชนะ
7.1%
45.8%
เปอร์เซ็นต์แพ้
78.6%
1.4
ค่าเฉลี่ยแต้มต่อ 1 นัด
0.4
2.1
ค่าเฉลี่ยประตูต่อ 1 นัด
1
1.5
ค่าเฉลี่ยประตูที่เสียต่อ 1 นัด
2.1

เรียกได้ว่าช่วงซัมเมอร์ ปี 2025 เป็นช่วงซัมเมอร์ที่สำคัญต่อทั้ง ซน และ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมคนใหม่ของ โธมัส แฟร้งค์ ซึ่งการตัดสินใจเรื่องอนาคตของแข้งเลือดโสมขาวก็อาจจะส่งผลกับเส้นทางของทีมได้เหมือนกัน

หน้าแรก


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 UFA DIAMOND สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.ufadm8.com/register.php
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : https://lin.ee/QJ7cl29

8xufabet

UFA365 เว็บพนันออนไลน์

UFA365 เว็บพนันออนไลน์


UFA365D สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.8xufabet.com/register.php?mk=365D
สอบถามเพิ่มเติม  𝙇𝙄𝙉𝙀 : @8xufabet