ดิโอโก้ โชต้า จากไปด้วยวัย 28 ปี ทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำสุดยิ่งใหญ่กับลิเวอร์พูล รวม 5 แมตช์ในตำนาน ทั้งดาร์บี้คว่ำเอฟเวอร์ตัน, ดราม่าสเปอร์ส, แฮตทริกถล่มอตาลันต้า ที่เดอะค็อปยังตราตรึงไม่ลืม

การไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการลูกหนังอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนบอล “หงส์แดง” ที่ถึงขนาดเรียกร้องให้สโสรยกเลิกเสื้อเบอร์ 20 เพื่อเป็นเกียรติให้กับนักเตะที่ชื่อว่าจงรักภักดีกับทีมนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในแอนฟิลด์ช่วงซัมเมอร์ปี 2020

สำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” รู้ดีว่า โชต้า เป็นนักเตะที่รักสโมสรมาก และไม่เคยปริปากบ่นหรือเรียกร้องอะไรเลยต้นสังกัดเลย ที่สำคัญเขาพร้อมลงทำหน้าที่ตามที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือ อาร์เน่อ สล็อต สั่งไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง

เพื่อเป็นการไว้อาลัยและระลึกถึงหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลลิเวอร์พูล ให้ความเคารพและรักอย่างมาก จึงได้คัดเลือกแมตช์ที่ โชต้า มีส่วนสำคัญในการช่วยทีมคว้าชัยชนะซึ่งแน่นอนว่ามีอยู่มากมาย แต่ที่สาวก “เดอะ ค็อป” ส่วนใหญ่จดจำได้เป็นอย่างดีและไม่มีวันลืมน่าจะเป็น  5 เกมดังต่อไปนี้

1. สัมผัสแรกตีเสมอ ฟอเรสต์

แมตช์ที่ต้องไปเยือนถิ่น ซิตี้ กราวนด์ ของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นช่วงต้นปี 2025 และฟอร์ม ลิเวอร์พูล ค่อนข้างฝืดหลังทำได้แค่เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 ที่แอนฟิลด์

ตอนนั้น อาร์เซน่อล กำลังเริ่มมีความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก กับทัพ “หงส์แดง” เพราะพวกเขาค่อยๆ ทำแต้มไล่มาแบบห่างๆ อย่างห่วงๆ และถ้าหาก ลิเวอร์พูล สะดุดอีกเกมในแมตช์เยือน “เจ้าป่า” อาจส่งผลกระทบกับการลุ้นแชมป์ได้

เกมนั้นเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก คริส วู้ด ตั้งแต่นาทีที่ 8 หลังจากนั้น “เดอะ เร้ดส์” พยายามโหมบุกกระหน่ำแต่จนแล้วจนรอดก็ยิงไม่ได้ แถมเกือบโดนประตูที่สองหลายครั้ง โดยสถานการณ์แบบนี้หากทีมแพ้จะทำให้ อาร์เซน่อล ขยับเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น

จนกระทั่งโค้ชอาร์เน่อ ส่ง โชต้า ลงมาพร้อมกับ คอสตาส ซิมิกาส ซึ่งตอนนั้นทีมได้เตะมุมพอดี และ “กรีก สเกาเซอร์” เปิดบอลให้ สตาร์จากแดนฝอยทอง โหม่งตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 60 ซึ่งเป็นสัมผัสแรกของทั้งสองคนในเกมนั้นด้วย

แม้สุดท้ายเกมจะจบลงด้วยการแบ่งกันไป 1 คะแนน แต่ถือเป็นแต้มที่มีค่ามากๆ เพราะทำให้ ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาระยะห่างจาก ทีมของกุนซือมิเกล อาร์เตต้า ได้พอสมควร

2.  ประตูโทนคว่ำ เอฟเวอร์ตัน 

สำหรับเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะการที่  ลิเวอร์พูล  เพิ่งบุกแบ่งแต้มแบบดราม่าที่กูดิสัน พาร์ค หลัง “หงส์แดง” โดนยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ก่อนเกมที่แอนฟิลด์ ทัพ “เดอะ เร้ดส์” อยู่ในช่วงระส่ำหลังแพ้ 2 เกมติดต่อกันนั่นก็คือการตกรอบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และแพ้นัดชิง คาราบาว คัพ นั่นทำให้สภาพจิตใจของนักเตะค่อนข้างมีปัญหา และ โค้ชอาร์เน่อ จำเป็นต้องกระตุ้นลูกทีมในเกมสำคัญนี้ เพราะถ้าหากพลาดอีกอาจจะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ลีกช่วงโค้งสุดท้ายได้

แมตช์นี้ โชต้า ได้รับโอกาสลงตัวจริง และทำอะไรไม่ค่อยได้มากนัก แถมเกมยังเต็มไปด้วยความอึดอัดเพราะเจ้าบ้านโหมบุกกระหน่ำตลอด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะตาข่ายเพื่อนรักร่วมเมืองได้ แถมยังเกือบโดนส่องประตู 2-3 ครั้งด้วย

อย่างไรก็ตาม ประสานงานระหว่าง หลุยส์ ดีอาซ กับ โชต้า ที่ทำชิ่งกันอย่างสุดยอด ก่อนที่เขาจะหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะหลอกแนวรับเอฟเวอร์ตัน และซัดบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในนาทีที่ 57 กลายเป็นประตูชัย และเป็นประตูที่แทบจะดับความหวังของ อาร์เซน่อล ในการลุ้นแชมป์ลีกเลยทีเดียว

3. ตะบันประตูชัยทดเจ็บแมตช์ดราม่า สเปอร์ส

จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล ปะทะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือเป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอล “หงส์แดง” หลายแมตช์ ที่เกมที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมเลือนและอยู่ในใจตลอดไปนั่นก็คือเกมเมื่อปี 2023 เพราะมีดราม่าสำคัญในช่วงท้ายเกมจากผลงานของ โชต้า

ต้องบอกว่าเกมดังกล่าว ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้เหนือกว่า “ไก่เดือยทอง” อย่างมาก และได้ประตูนำไปก่อน 3-0 ตั้งแต่ช่วง 15 นาทีแรก และมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มหลายครั้ง แต่สุดท้ายจบครึ่งแรก “หงส์แดง” นำ 3-1

ครึ่งหลังเจ้าบ้านยังมีโอกาสยิงประตูได้หลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งมาโดน ซน ฮึง-มิน ซัดประตูตีตื้นเป็น 2-3 ในนาทีที่ 77 ก่อนที่ ริชาร์ลีซอน จะตะบันตีเสมอ 3-3 ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3

อย่างไรก็ตาม อีก 1 นาทีถัดมา โชต้า สวมบทซูเปอร์ซับซัดประตูชัยช่วยให้ทีมขึ้นนำ 4-3 และเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ “หงส์แดง” เก็บ 3 แต้มต่อหน้าสาวก “เดอะ ค็อป” ได้อย่างสุดยอด

4.  แฮตทริกแรกในนามแข้ง ลิเวอร์พูล 

หลังจากไม่กี่สัปดาห์ที่ย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ช่วงซัมเมอร์ปี 2020 โชต้า ประกาศศักดาในฐานะยอดดาวยิงในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป เมื่อตะบันสามประตูให้ต้นสังกัดถลุง อตาลันต้า 5-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ด้วยความรวดเร็ว, เคลื่อนที่ฉลาด และจบสกอร์เฉียบคม ทำให้เขากลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล “หงส์แดง” ทันที โดยประตูแรกเป็นการชิพบอลข้ามผู้รักษาประตูได้อย่างเหนือชั้น

ขณะที่ประตูที่สองเป็นการโชว์ทักษะการจับบอลแรกอย่างยอดเยี่ยม ก่อนวอลเลย์จบสกอร์อย่างสวยงาม ส่วนประตูที่สามแสดงให้เห็นถึงไหวพริบชั้นยอด ด้วยการวิ่งทำทางได้อย่างแม่นยำ หลอกผู้รักษาประตูแล้วส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแบบง่ายดาย

ผลงานในแมตช์นั้นเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า โชต้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวสำรองของสามแนวรุก “หินเหล็กไฟ” (SMF) โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ เท่านั้น แต่พร้อมที่จะสอดแทรกขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ในการยิงประตูให้ทีม

5.  ฮีโร่ที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค

แมตช์นี้ โชต้า ได้รับโอกาสจาก โค้ชอาร์เน่อ ลงเป็นตัวจริง และเขาก็ไม่ทำให้กุนซือชาวดัตช์ต้องผิดหวัง เมื่อเป็นคนนำชัยชนะมาสู่ทีม และเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นการยึดจ่าฝูงแบบม้วนเดียวจบของ ลิเวอร์พูล

ประตูชัดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจาก สตาร์ชาวโปรตุกีส ที่ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายตั้งแต่นาทีที่ 9 ของเกมที่เวสต์ ลอนดอน ขณะเดียวกับแนวรับของ “หงส์แดง” สามารถป้องกันเกมรุกของ คริสตัล พาเลซ เอาไว้ได้อยู่หมัด

สำหรับประตูโทนในแมตช์นั้นเป็นการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมจากทางฝั่งซ้ายของสนาม  โดยเริ่มจาก ซิมิกาส ที่ทิ่มบอลทะลุช่องให้ โกดี้ คักโป ซึ่งโชว์ความฉลาดด้วยการผ่านบอลเร็วแบบไม่จับเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ โชต้า จะวิ่งแซง เทรโวห์ ชาโลบาห์ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายอย่างงดงาม

ทั้งนี้ ผลงาน 65 ประตูจากการเล่น 182 เกมให้กับ ลิเวอร์พูล จะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล “หงส์แดง” ตลอดไป ขอให้ไปสู่สุคติ ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อทีม

หน้าแรก


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 UFA DIAMOND UFADM8 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.ufadm8.com/register.php
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : https://lin.ee/QJ7cl29

8xufabet

https://unlimit365d.net/

UFA365 เว็บพนันออนไลน์


UFA365D สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.8xufabet.com/register.php?mk=365D
สอบถามเพิ่มเติม  𝙇𝙄𝙉𝙀 : @8xufabet