การลุ้นแชมป์อย่างจริงๆ จังๆ อาจเป็นเรื่องของอนาคต แต่ในปัจจุบันเดอะค็อปน่าจะมองโลกในแง่ดีได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับความรู้สึกหลังเสมอเชลซีในนัดเปิดสนาม..

หลังจบเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันนั้นลิเวอร์พูลเต็มไปด้วยคำถาม ด้วยรูปเกมเป็นรองเจ้าถิ่นชัดเจน เอาตัวรอดกลับออกมาได้พร้อมคะแนนติดมือถือเป็นความสำเร็จ เป็นหนึ่งแต้มใหญ่

ในวันนั้นมีความกังวลมากมาย แน่นอนครับ การได้ถอนหายใจเฮือกโตๆ ที่หมดเวลาเสียทีนั้นด้านหนึ่งคือโล่งอก แต่อีกด้านหนึ่งย่อมหนักใจ สภาพอย่างนี้น่ะหรือจะไปแย่งแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่เราต้องไม่ลืมว่าไม่มีอะไรหยุดอยู่กับที่หรอก ความผิดพลาดในวันนี้คือการบ้านให้ผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ทำอย่างไรให้พลาดน้อยลง ทำอย่างไรให้มันไม่เกิดขึ้นอีก

นับจากเกมนั้นลิเวอร์พูลก็ชนะรวดมา 6 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว แบ่งเป็น 5 เกมในพรีเมียร์ลีก และอีก 1 เกมในยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ADVERTISEMENT

ชนะด้วยหนทางที่แตกต่างกันโดยมีเกมเยือนเซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นจุดสูงสุดของการระเบิดอารมณ์ มันคือเกมที่กระชากอะไรหลายๆ อย่างกลับขึ้นมา ทำให้ลิเวอร์พูลเดินหน้าบนเส้นทางที่ชัดเจนในเวลานี้

มันคือเกมที่ทำให้ ดาร์วิน นูนเญซ มีความมั่นใจว่าเขาสร้างความแตกต่างได้ คือเกมที่ตอกย้ำความเชื่อให้กับนักเตะทุกคนว่าพวกเขามีดีพอที่จะเอาชนะอุปสรรคใหญ่ คือเกมที่ยิ่งทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ เชื่อและภูมิใจกับลูกทีมของเขา

ADVERTISEMENT

เชื่อในลิเวอร์พูล 2.0 ของเขา..

เตะ 6 ชนะ 5 เสมอ 1 เกาะติดแมนเชสเตอร์ ซิตี้แบบไม่ปล่อย นี่คือสถานการณ์ที่เป็นบวกเอามากๆ สำหรับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้

แน่นอนทีมเรือใบสีฟ้ายังคงเป็นเต็งหนึ่งแบบที่ทิ้งเต็งสองหลายช่วงตัว แต่เต็งหนึ่งแชมป์สามปีซ้อนและแชมป์ 5 สมัยจาก 6 ฤดูกาลหลังสุดอย่าพลาดมาก็แล้วกัน เราจ้องมองคุณอยู่

ผมเชื่อว่าคงยังไม่มีเดอะค็อปคนไหนกล้ามั่นใจว่าลิเวอร์พูลจะได้แชมป์ แต่กับการกดดันซิตี้ไปเรื่อยๆ ด้วยชัยชนะที่เก็บเกี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ยากบ้าง ง่ายบ้าง ทำให้ความหวังยังมีอยู่เสมอ สถานการณ์แบบนี้ก็มีความสุขดีเหมือนกัน

ชัยชนะนัดล่าสุดเหนือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำให้บรรยากาศแห่งความสุขอบอวลต่อไป มันไม่ใช่เกมง่ายแม้สถิติจะบอกว่าไม่ยาก ลิเวอร์พูลอัดขุนค้อนพังมา 7 จาก 8 เกมหลังสุดที่ฟาดแข้งกันไม่ว่าจะที่เมอร์ซี่ย์ไซด์หรือลอนดอน หรือที่ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาแพ้เดอะแฮมเมอร์สในแอนฟิลด์แค่ครั้งเดียวในรอบ 60 ปีหลังสุด (หลังจากแพ้ 1-2 เมื่อเดือนกันยายน ปี 1963 ก็มาแพ้อีกแค่หนเดียวด้วยสกอร์ 0-3 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2015)

90 นาทีที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันอาทิตย์ลิเวอร์พูลจัดการกับตัวอันตรายของทีมเยือนได้ดี มิคาอิล อันโตนิโอ ถูกประกบติดโดย โฌแอล มาติป ที่ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม เมื่ออันโตนิโอพักบอลไม่ได้ถนัดเกมตอบโต้ของขุนค้อนจึงไม่ปะติดปะต่อ ส่งผลเชื่อมโยงไปยังบทบาทของตัวทีเด็ดทั้ง จาร์ร็อด โบเวน, เจมส์ วอร์ด-เพราส์ และ ลูกัส ปาเกต้า

ในช่วงต้นเกมเวสต์แฮมยังมีจังหวะทำประตูที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องงัดการป้องกันมหัศจรรย์ออกมาช่วยปัดลูกโหม่งของ โทมัส ซูเช็ก ออกหลังเหลือเชื่อรวมทั้ง อันโตนิโอ เองที่พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย แต่เมื่อตั้งหลักได้แล้วเกมของลิเวอร์พูลก็นิ่งขึ้นและปิดโอกาสเวสต์แฮมได้

ขุนพลหงส์แดงไม่โหมเร่ง อาศัยการผ่านบอลให้แน่นอน ไม่เสี่ยงจ่ายบอลได้เสียที่อาจเปิดโอกาสให้อาคันตุกะได้เล่นงานกลับ

ทั้งสองทีมต่างก็เล่นด้วยความอดทน รอโอกาส ไม่ผลีผลาม และเมื่อโอกาสเปิดก็ฉวยมันได้ในที่สุด ประตูขึ้นนำของลิเวอร์พูลมาจากการลงไปช่วยเกมรับของ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ไหลต่อให้ หลุยส์ ดิอาซ แล้วตัวเองวิ่งควบขึ้นไปเป็นตัวเลือกอย่างรวดเร็วก่อนที่บอลจะผ่านไปถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เรียกฟาวล์ได้จุดโทษ ขณะที่โอกาสทำประตูของเวสต์แฮมก็เป็นผลจนได้เช่นกันซึ่งต้องชมความเป็นเพชฌฆาตของโบเวนที่เสือกหัวเข้ามาโหม่งบอลที่ลอยในระดับที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ต้องจัดท่าทางในการสกัดตีเสมอเป็น 1-1

ในภาพรวมแล้วลิเวอร์พูลครองเกมได้.. การชนะ 6 นัดรวดไปก่อนหน้านี้ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้แค่ไม่แพ้ย่อมไม่พอ ลิเวอร์พูลต้องชนะเพื่อรักษาระยะห่างกับแชมป์เก่าให้เหลือ 2 คะแนนตามเดิมให้ได้ และหลังจากพักครึ่งเวลากลับมา เราก็ได้เห็นการเล่นที่เร็วขึ้น ดุดันขึ้น กล้าได้กล้าเสียขึ้น บอลจ่ายขึ้นหน้ามากขึ้น กดดันเวสต์แฮมได้มากกว่าเดิมในครึ่งหลัง

ประตูนำ 2-1 ของดาร์วินได้มาในจังหวะที่ถูกต้อง 6-7 เกมที่ผ่านมาของฤดูกาลนี้หัวหอกอุรุกวัยยังมีความไม่นิ่งติดตัวอยู่ในจังหวะสุดท้าย ความเยือกเย็นเฉียบขาดใน 2 ประตูที่ซัดใส่นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลับหายไปใน 2 เกมถัดมาที่เจอ แอสตัน วิลล่า และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

แน่นอนความขยันทุ่มเทของเขาไม่ใช่คำถาม การวิ่งไล่ของเขากดดันกองหลังได้มาก การเคลื่อนที่ของเขาช่วยเปิดช่องให้เพื่อนและเป็นตัวเลือกในการให้บอลของเพื่อน การหาตำแหน่งทำประตูก็ทำได้ดี เพียงแต่เขายังต้องการความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้ายที่สม่ำเสมอกว่านี้เพื่อยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น

ก็ประตูในแบบที่เขายิงให้ทีมนำเวสต์แฮมอีกครั้งลูกนั้นนั่นแหละ ดาร์วินจะต้องทำมันให้ได้บ่อยๆ เพราะมันเป็นการทำประตูในลักษณะของกองหน้าที่เติบโตแล้ว คือจะยิงแรงยิงเบาหรือยิงด้วยวิธีไหนไม่สำคัญ ประสิทธิภาพต้องมาก่อน

ไม่ร้อนรน ไม่ลนลาน ไม่ตื่นเต้นขาสั่น หรือรีบยิงด้วยความแรง แต่เยือกเย็นพอที่จะหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย

ประตูที่ยิงใส่เวสต์แฮมลูกนี้สมบูรณ์แบบตรงที่น้ำหนักในการส่งบอลผ่านผู้รักษาประตู

ดาร์วินกระโดดลอยตัวเข้าถึงบอลที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ตักข้ามแนวรับมาให้ ก่อนจะ “เคาะ” บอลด้วยน้ำหนักที่เหมาะสม ส่งมันไปสู่ทิศทางที่นายทวารไม่สามารถป้องกันได้

ไม่ต้องแรง ไม่ต้องรีบ มันจะเป็นประตูแน่ๆ ถ้าบอลผ่านผู้รักษาประตูไปได้

ถ้าเป็นในเวลาที่ตื่นเต้น เราอาจเห็นเขากระโดดหวดสุดแรงส่งบอลลอยขึ้นอัฒจันทร์ เราได้เห็นภาพนั้นเป็นระยะๆ ความนิ่งนี้คือสิ่งที่เขาต้องพัฒนาขึ้นไป ต้องยิงประตูอย่างเยือกเย็นแบบนี้ให้ได้เรื่อยๆ ด้วยสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

คำชมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มีต่อ ดาร์วิน ทำให้เรารู้ว่าเขาฝากความหวังไว้กับหัวหอกคนนี้มากแค่ไหนและพึงพอใจเพียงใดกับพัฒนาการที่ดาวเตะอุรุกวัยกำลังทำให้เห็น การมีส่วนร่วมกับเกมในแบบที่เป็นเกม ไม่วิ่งปรี่อย่างไร้ประสิทธิภาพจนเป็นการใช้แรงโดยเปล่าประโยชน์เหมือนช่วงแรกๆ

ในวันที่ขุมกำลังของคล็อปป์พร้อมสรรพไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน มันช่วยได้มากจริงๆ การเปลี่ยนตัวทุกครั้งได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเสมอ เกมชนะขุนค้อน ดีโอโก้ โชต้า ก็เปลี่ยนตัวลงมายิงประตูฝังให้ทีมชนะเด็ดขาด

ลองเทียบกับวิบากกรรมที่ต้องเจอช่วงต้นฤดูกาลที่แล้วดูก็ได้ การเจ็บพักยาวของ โชต้า กับ หลุยส์ ดิอาซ และความใหม่ที่ต้องปรับตัวของ ดาร์วิน ส่งผลกระทบชิ่งไปสู่แดนกลางที่อ่อนล้าทำให้เกิดรูโหว่ช่องใหญ่

กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ คล็อปป์มีตัวเลือกเหลือเฟือในแดนหน้า โกดี้ คักโป กับ โชต้า รับบทตัวสำรองในปัจจุบันแต่ทั้งคู่มีดีพอที่จะยึดตัวจริงคืนจาก ดาร์วิน และ ดิอาซ ได้ทุกเมื่อ

ทั้ง 4 คนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่พร้อมแข่งขัน ใครเป็นตัวจริงก็ได้ทั้งนั้น นั่นเป็นประโยชน์ต่อการจัดทัพของคล็อปป์อย่างมากด้วยแต่ละคนมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ทำให้เกมรุกมีมิติหลากหลาย

โชต้าจมูกไว เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้ฉมัง ทำประตูได้ทุกรูปแบบ

ดาร์วินขยัน วิ่งไล่กดดันได้ดี พาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งทำประตูอยู่ตลอด

คักโปฉลาด เซนส์บอลสูง รับผิดชอบพื้นที่หน้าต่ำขึ้นไปถึงหน้าเป้าได้อย่างไม่ผิดพลาด

ดิอาซคล่องแคล่ว เลี้ยงกินตัวสร้างความปั่นป่วนใส่คู่แข่งได้ เรียกฟาวล์ได้ สอดเข้าไปทำประตูได้

มี 2 ใน 4 คนนี้เริ่มเกมด้วยตำแหน่งตัวจริงร่วมกับซาลาห์ อีก 2 คนรอส่งลงมาเพิ่มความสดและมิติในระหว่างเกม ลิเวอร์พูลสามารถคาดหวังได้ถึงประตูในทุกๆ นาทีที่ผ่านไป

เกมตรงกลางก็เป็นจุดที่น่าพอใจมาก ตัวจริงในเวลานี้คือ แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ และ โดมินิก โซบอสไล แต่ตัวสำรองอย่าง ไรอัน กราเฟนแบร์ค กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็พร้อมจะแย่งตำแหน่งถ้าใครฟอร์มตก รวมทั้ง วาตารุ เอ็นโด, สเตฟาน บายเซติช และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ถ้าหายเจ็บกลับมาต่างก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทั้งสิ้น

เรามองเห็นภาพการหมุนผู้เล่นทดแทนกันได้ต่อเนื่องจากกองหน้ามาสู่กองกลาง นักเตะใหม่อย่าง โซบอสไล สอบผ่านไปแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เช่นกัน เกมกับเวสต์แฮมเราได้เห็นการตักบอลข้ามแนวรับคู่ต่อสู้ด้วยน้ำหนักร้อยเปอร์เซนต์จากทั้งคู่ มันทำให้ทีมได้ประตูทั้งสองครั้งเพียงแต่ลูกเปิดของโซบอสไลให้โจนส์ยิงเป็นจังหวะล้ำหน้าเพียงนิดเดียว

นี่คือมิติเกมรุกจากตรงกลางที่ลิเวอร์พูลได้เพิ่มเข้ามาด้วยคุณภาพของ 2 คนนี้

กราเฟนแบร์คเองก็มีแววทีเดียวจากเกมกลางสัปดาห์ที่ลินซ์ ผมชอบบอลแรกและการเคลื่อนตัวจังหวะแรกของเขาที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบคู่แข่งในทันที เชื่อว่ามิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ลุ้นแย่งตำแหน่งตัวจริงกับโจนส์และเอลเลียตต์ได้แน่ ขณะที่เอ็นโดก็เป็นตัวสนับสนุนที่มีคุณภาพ

เหลือเกมรับที่ทั้งหมดยังเป็นหน้าเดิมและทีมยังมีสถิติการเสียประตูเกือบทุกเกมอยู่ มันเป็นการบ้านที่คล็อปป์กับลูกทีมต้องพยายามแก้กันต่อไป อย่างแรกเลยคือต้องกำจัดการเสียประตูจากความผิดพลาดของตัวเองให้ได้ก่อน ซีซั่นนี้มีอยู่ 2-3 ลูกที่เป็นลักษณะนั้น แต่ในภาพรวมถือว่าตัวเลือกที่คล็อปป์มีใช้ในการป้องกันไม่ได้ขาดแคลน คนที่เคยตกเป็นเป้าอย่าง โจ โกเมซ ก็ดูจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเราสามารถวางใจเขาได้

ในภาพรวมของลิเวอร์พูลหลังเกมเชือดเวสต์แฮม ยูไนเต็ด นี่น่าจะเป็นฤดูกาลที่แฟนบอลได้กระชุ่มกระชวยกันอีกครั้ง

สิ่งที่น่าพอใจและทำให้เดอะค็อปรู้สึกวางใจได้กับทีมชุดนี้ไม่ใช่แค่การชนะ 5 เกมติดในลีกเกาะติดกดดันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไม่ปล่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นขนาดทีมที่ใหญ่และมีคุณภาพมากพอที่จะมองเห็นการเล่นทดแทนกันได้

เวลานี้ปัญหาบาดเจ็บยังไม่ผ่านมากร้ำกรายลิเวอร์พูล แน่นอนครับถ้าจะให้ดีขออย่าให้มันแวะมาเยือนเลย ตรงนี้เราเองก็ต้องช่วยกันลุ้นไปด้วยเพราะมันเป็นเรื่องนอกเหนือการควบคุม

6 นัด 16 คะแนนยังไม่แพ้ใคร ลิเวอร์พูลออกตัวในฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานอย่างนี้ เดอะค็อปน่าจะได้สนุกกันยาวๆ แน่นอนล่ะครับ

สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufa365d.ibetauto.com/ufa365d/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @ufa365d