สิ่งแรกที่คุณนึกถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คืออะไร?!

นับตั้งแต่เขาย้ายจาก โรม่า มาอยู่ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2017 ซาลาห์ พาตัวเองขึ้นสู่ท็อปทรีดาวยิงสูงสโมสรได้อย่างรวดเร็ว

ซาลาห์ สถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในยอดดาวยิงบนโลกฟุตบอล ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ทีมจาก ซาอุดีอาระเบีย ถึงอยากได้ตัว ซาลาห์ ไปครอบครอง

ในวัย 31 ปี ซาลาห์ มีค่าถึงขนาดที่ อัล อิตติฮัด พร้อมทุบสถิติค่าตัว 200 ล้านปอนด์เพื่อยั่วยวนให้ ลิเวอร์พูล ยอมใจอ่อน

อย่างไรก็ตาม คนใหญ่คนโตแห่งถิ่นแอนฟิลด์ อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงยืนกรานหนักแน่นในทำนองว่า “ซาลาห์ ไม่ได้มีไว้ขาย”

ADVERTISEMENT

บนมุมมองเชิงธุรกิจ หากขายได้มูลค่าขนาดนั้น แน่นอนมันคือกำไรมหาศาล

แต่ในแง่ของฟุตบอล ไม่มีทางเลยที่จะหาใครมาทดแทน ซาลาห์ ได้ อย่างน้อยก็เวลานี้

ADVERTISEMENT

ความสำคัญของเขา มีมากกว่าแค่เรื่องทำประตู

จะบอกว่า ในแต่ละนัด ซาลาห์ คือกลไกสำคัญที่จะพาไปสู่ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ผิดนัก

เกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยวิสัยทัศน์, คุณภาพ และความแม่นยำในการผ่านบอลให้ ดาร์วิน นูนเญซ สังหารประตูชัย บ่งบอกถึงคุณภาพได้ดี

มันคือลูกยิงที่เป็นความทรงจำชั้นยอดของ คล็อปป์ และแฟนบอลลิเวอร์พูล เลยก็ว่าได้

ประตูนั้นเป็นแอสซิสต์ที่สองของฤดูกาล โดยที่ลูกแรกก็สวยงามไม่แพ้กัน

ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซาลาห์ รับบอลต่อจาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แล้วได้ดวลตัวต่อตัวกับ ลีวาย โควิลล์

ซาลาห์ พาบอลไปข้างหน้า และจดจ่อกับการวิ่งของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ควบจากทางกราบซ้ายมุ่งสู่กรอบเขตโทษ

แล้วเขาก็ตักบอลไปยังพื้นที่ว่างที่ ดิอาซ สอดเข้ามาทำประตูในเวลาอันเหมาะเจาะ

แอสซิสต์ของ ซาลาห์ ในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล คือแอสซิสต์หนที่ 76 จากทุกรายการกับ ลิเวอร์พูล

มันคือตัวเลขอันดับหกตลอดกาลของสโมสนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 1969/70

มีแค่ เคนนี่ ดัลกลิช (176), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (145), จอห์น บาร์นส์ (101), สตีฟ แม็คมานามาน (85) และ เอียน รัช (83) เท่านั้นที่ทำสถิติแง่นี้ได้มากกว่า

ฤดูกาลก่อน นอกเหนือจากการทำประตูได้ 30 ลูกแล้ว ซาลาห์ ยังมียอดแอสซิสต์ 16 ครั้ง แบ่งเป็น 12 หนบนเวที พรีเมียร์ลีก ซึ่งนับเป็นเลขแอสซิสต์มากสุดของเขา

ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากเมื่อมองจากการที่ ลิเวอร์พูล พบเจอซีซั่นอันยากลำบาก

นับตั้งแต่ซีซั่น 2017/18  มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ (74) เท่านั้นที่แอสซิสต์ได้มากกว่า ซาลาห์ ที่ทำได้ 60 ครั้ง

แน่นอนว่าคนเป็นกองหน้าจำเป็นต้องมีสถิติแนวที่เห็นแก่ตัว

ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น พวกเขาก็คงจะไม่สามารถทำประตูแบบเป็นกอบเป็นกำได้

ซาลาห์ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่พอใจที่โดนเปลี่ยนตัวในช่วง 13 นาทีสุดท้ายของเกมกับ เชลซี

บรรดาแฟนบอลเจ้าถิ่นส่งเสียงเฮเชิงเยาะเย้ยในตอนที่เขาถอดเทปพันข้อมืออออก โดยที่ คล็อปป์ ไม่ได้ตอบโต้อะไรในตอนที่ดาวเตะชาวอียิปต์ทิ้งตัวนั่งบนม้านั่งสำรอง

คล็อปป์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับท่าทีของ ซาลาห์ เลย

ดาวเตะชาวอียิปต์มีนิสัยแบบผู้ชนะ และชอบทำลายสถิติ

การที่เขาโดนเปลี่ยนตัวเป็นการทำลายความหวังที่เขาจะได้เป็นคนที่ทำประตูในนัดเปิดฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก ได้ติดต่อกันมากที่สุดแบบเดี่ยว ๆ

โดยวันนั้น ซาลาห์ มีชอตยิงชนคานในครึ่งแรก แต่เขาก็ยังได้ของสถิติร่วมกับ อลัน เชียเรอร์, เวย์น รูนี่ย์ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อยู่

บางครั้ง ซาลาห์ เลือกที่จะยิงเองในตอนที่เพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ในจุดที่ดีกว่า

ความเดือดดาลของ ซาดิโอ มาเน่ ในเกมกับ เบิร์นลี่ย์ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2019 หลังจากที่โดนเปลี่ยนตัวออกถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

ถึงกระนั้น มาเน่ กับ ซาลาห์ ก็มีความสัมพันธ์ในสนามที่ยอดเยี่ยม และดาวเตะชาวเซเนกัล ถือเป็นคนที่ได้ประโยชน์จากความสร้างสรรค์ในการเล่นร่วมกันมากที่สุด หากนับรวมผลงานในทุกรายการในช่วงที่เขาอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์

ซึ่งสถิติบอกว่า มาเน่ คือคนที่ ซาลาห์ ใส่พานให้ยิงมากสุดที่ 17 ครั้ง

รองลงมาคือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (14) ขณะที่ผู้เล่นลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบัน เป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กับ ดีโอโก้ โชต้า ที่มีตัวเลขเท่ากันคือ 4 หน

ส่วนแนวรุกยุคนี้คนอื่น ๆ อย่าง โคดี้ กัคโป หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ต่างมีตัวเลขที่ ซาลาห์ แอสซิสต์ให้เท่ากันคือคนละ 2 ครั้ง

ตอนช่วงปรีซีซั่น ซาลาห์ แอสซิสต์ให้ ดาร์วิน 3 หน ซึ่งสองจากสามเกิดขึ้นในเกมเจอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แทงทะลุไปให้ ซาลาห์ วิ่งฉีกหนีตัวประกบ ก่อนจะใช้ความเข้าใจซึ่งกันและกันกับหัวหอกอุรุกวัย แล้วผ่านบอลไปจุดนัดพบ ก่อนที่ ดาร์วิน จะแตะหลบผู้รักษาประตูแล้วผลิตสกอร์

กระบวนการที่นำไปสู่ลูกที่ 2 ของ ดาร์วิน ในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล มันไม่ได้ต่างกันมากนัก

ประตูที่สองในเกมเจอ เฟือร์ธ ก็เช่นกัน ซาลาห์ ยกบอลไปยังพื้นที่ว่างเพื่อให้ ดาร์วิน หลุดเข้าจบสกอร์ด้วยซ้าย

เกมกับ คาร์สรูห์ ซาลาห์ กับ ดาร์วิน ประสานงานกันอีกครั้ง เริ่มจากตอนแรก ดาร์วิน พยายามมองหา ซาลาห์ แทนที่จะยิงเอง

ซึ่ง ซาลาห์ ก็คืนกลับมาให้รุ่นน้องได้ยิงเป็นประตู

2 แอสซิสต์ของเขาในเกมกับ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ และรูปแบบการแอสซิสต์ของ ซาลาห์ ตลอดช่วงปรี-ซีซั่น

แสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล เน้นผ่านบอลไปให้ ซาลาห์ ตรงพื้นที่ว่าง หรือไม่ก็ในจังหวะที่เขาได้ดวลกับแนวรับของคู่แข่งแบบตัวต่อตัว

เกมกับ เชลซี เข้าข่ายอย่างหลัง ส่วนนัดกับ นิวคาสเซิ่ล เข้าข่ายอย่างแรก

ในเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ลิเวอร์พูล เปลี่ยนแนวทางการเล่นให้ ซาลาห์ ได้เล่นกับพื้นที่ว่างมากขึ้น

นั่นทำให้เขาพุ่งเข้าหาฟูลแบ็กของคู่แข่งได้และทำให้ทีมมีโอกาสทำประตูมากกว่าเดิมเยอะ

ซาลาห์ รอจังหวะที่ ดิอาซ วิ่งเข้าหากรอบเขตโทษแล้วผ่านได้แบบพอเหมาะพอเจาะ

จากนั้น ดิอาซ ก็หนีแนวรับ แล้วยิงเข้าประตูไป

สองแอสซิสต์ในการเจอ เลสเตอร์ ก็เหมือนกัน

โชต้า ไหลบอลให้ ซาลาห์ ไปทางขวา แล้วเขาก็เข้าไปในกรอบเขตโทษ ดึงตัวประกบแล้วเก็บบอลอย่างใจเย็นก่อนจะถวายพานให้ บ็อบบี้ คล้าร์ก ส่งบอลจมก้นตาข่าย

สำหรับประตูที่สองในเกมเดียวกัน โชต้า ก็ทำเช่นเดิมคือจ่ายให้ ซาลาห์ ตรงพื้นที่กว้าง แล้วเขาก็ดึงจังหวะรอ โชต้า สอดมาโขกทำประตู

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ ซาลาห์ จะสร้างโอกาสตอนได้บอลเท่านั้น แต่เขายังทำแบบนั้นได้จากการวิ่งไล่กดดัน

เกมเจอ ดาร์มสตัดท์ เขาเพรสซิ่งใส่กองหลังฝั่งตรงข้าม เมื่อแย่งบอลได้เขาก็ส่งต่อให้ดาวเตะโปรตุกีส ทำประตู

การมี ซาลาห์ อยู่ในทีมทำให้ ลิเวอร์พูล มีทางเลือกในการเล่นเกมรุกที่หลากหลาย

เรื่องนี้เห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่นัดเปิดซีซั่น

ถ้าเกิด ซาลาห์ ยังสามารถทำประตูได้เรื่อย ๆ และทำแอสซิสต์ได้เป็นประจำ

ลิเวอร์พูล จะยังสามารถเดินหน้าเก็บผลการแข่งขันที่ดี ๆ ได้ ซึ่งมันก็ดีกว่าการที่ไม่มีเขาอยู่ในสนาม

ภาพจาก The Athletic

สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufa365d.ibetauto.com/ufa365d/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @ufa365d