ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก มีโอกาสคว้าแชมป์ใบแรกของซีซั่นนี้เมื่อพวกเขามีคิวลงเล่นกับ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศถ้วย คาราบาวคัพ ที่สนาม เวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทั้ง หงส์แดง และ สิงห์บลูส์ ต่างก็ประสบกับปัญหามีนักเตะล้มเจ็บหลายรายด้วยกันทั้งคู่ หากแต่ในฐานะทีมเต็งแชมป์ซึ่งหวังสร้างชื่อคว้าแชมป์สี่รายการในปีนี้เพื่อส่งท้ายบอกลา เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างดีที่สุด มันจึงน่าสนใจว่ากุนซือชาวเยอรมันจะบริหารทีมด้วยการจัดทัพลงเล่นกับเศรษฐีลอนดอนอย่างไรเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพยายามซิวโทรฟี่ให้ครบทุกใบของพวกเขา

วัดจากเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ เร้ด แมชีน เปิดบ้านถล่ม ลูตัน ยับเยิน 4-1 เชื่อว่า คล็อปป์ จะโรเตชั่นทีมไม่มากเนื่องจากโอกาสไม่เป็นใจให้กับเขาสักเท่าไหร่โดย 11 ขุนพลของทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์น่าจะมีรูปโฉมดังนี้

– ผู้รักษาประตู : ควีวิน เคลเลเฮอร์

อย่างที่ทราบกันดีว่า อลิสซง เบ็คเกอร์ มีอาการบาดเจ็บรบกวน และหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมสำคัญนี้อย่างแน่นอนอีกราย

ADVERTISEMENT

อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูล มี เคลเลเฮอร์ นายทวารมือสองที่ไว้ใจได้อยู่ทั้งคนเนื่องจากมือกาวทีมชาติ ไอร์แลนด์ แสดงให้เห็นมาโดยตลอดว่าไม่เคยทำให้สาวก เดอะ ค็อป ผิดหวังในทุกๆครั้งที่ได้เฝ้าตาข่ายโดยเฉพาะนับตั้งแต่ได้ลงเล่นแทนผู้รักษาประตูทีมชาติ บราซิล สามเกมหลัง เขามีส่วนพาทีมชนะรวดในศึก พรีเมียร์ลีก

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ อลิสซง ฟิตสมบูรณ์ คล็อปป์ ก็อาจเลือกใช้งาน เคลเลเฮอร์ ในเกมนี้อยู่ดีเหมือนเมื่อสองปีก่อนที่เขาได้ลงบู๊ และเซฟลูกโทษแบบมาราธอนช่วยให้ทีมชนะ เชลซี คว้าโทรฟี่ใบนี้มาครองได้สำเร็จ

ADVERTISEMENT

– กองหลัง : คอเนอร์ แบรดลีย์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ลิเวอร์พูล มีแนวโน้มปรับทัพในแผงแบ็คโฟร์มากที่สุดหากจะเทียบไลน์อัพกับเกมลีกนัดบู๊กับ เดอะ แฮตเตอร์

ที่แน่ๆ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ ที่ฟิตเปรี๊ยะแล้วจะกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้แทนที่ โจ  โกเมซ แบ็คซ้ายจำเป็นที่เล่นได้อย่างน่าประทับใจมาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน โกนาเต้ ที่ได้นั่งพักในเกมยำใหญ่ ลูตัน จะได้ลงเล่นแทน จาเรลล์ ควานซาห์ ส่วนอีกสองตำแหน่งจะตกเป็นของกัปตันทีม ฟาน ไดค์ และ แบรดลีย์ ซึ่งทำหน้าที่ได้เยี่ยมนับตั้งแต่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บาดเจ็บ

– กองกลาง : วาตารุ เอ็นโด , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ , ไรอัน กราเฟนแบร์ค

ถึงขณะนี้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล น่าจะมีความลงตัวแล้ว แม้อาจเป็นเรื่องบังเอิญหลังจาก โดมินิก โซโบซไล มีอันต้องร้างสนาม

ที่แน่ๆ เอ็นโด สร้างชื่อเป็นนักเตะหมายเลข 6 ของทีมได้อย่างเต็มตัวแล้วโดยสตาร์ทีมชาติ ญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นเป็นลำดับ และกลายมาเป็นตัวเลือกแรกของทีมอย่างสมควร

สำหรับอีกสองรายจะยังเป็นภาระของ กราเฟนแบร์ค กับ แม็ค  อัลลิสเตอร์ เว้นก็แต่ว่าหากดาวเตะทีมชาติ ฮังการี หายเจ็บเมื่อไหร่ กองกลางทีมชาติ ฮอลแลนด์ ก็น่าจะต้องกลับไปรับบทตัวสำรอง

กองหน้า : ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ , หลุยส์ ดิอาซ , โคดี้ กัคโป

ถือเป็นจุดที่เดาใจ คล็อปป์ ได้ยากที่สุดโดยเฉพาะสองสตาร์อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ กับ โม ซาลาห์ บาดเจ็บจนไม่มีส่วนร่วมในเกมต่อกรกับ ลูตัน

ฉะนั้นแล้วสามหัวหอกของ เร้ด แมชีน ที่สนาม เวมบลีย์ จะยังเป็นขุนพลหน้าเดิมเฉกเช่นแดนกลางโดยคาดว่าพวกเขาน่าจะได้ดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย และ อียิปต์ ลงสนามได้ แต่ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกมเพื่อเก็บรักษาความฟิตเอาไว้ก่อน และเป็นการดูเชิงทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไปในตัวก่อนมีการปรับเปลี่ยนในครึ่งหลังอันเป็นสิ่งที่ คล็อปป์ แสดงให้เห็นมาตลอดว่าเขาเป็นเจ้าพ่อฟุตบอลครึ่งหลังตัวจริงเสียงจริง

UFA365 เว็บพนันออนไลน์

UFA365 เว็บพนันออนไลน์


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufa365d.ibetauto.com/ufa365d/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @ufa365d