ฟุตบอลรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า นัดชิงชนะเลิศ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา เป็นบิ๊กแมตช์ "เอล กลาซิโก้" ฉบับซูเปอร์คัพบนแผ่นดินซาอุฯ ระหว่าง เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ลา ลีกา สเปน พบกับ บาร์เซโลน่า รองแชมป์ลา ลีกา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
เปิดฉากมาได้แค่ 2 นาที ติโบต์ กูร์กตัวส์ เจองานหนักหลังต้องเซฟลูกยิงของ ลามีน ยามาล ที่ซัดด้วยซ้ายไปแฉลบ เมนดี้ แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านชาวเบลเยียมที่พุ่งปัดได้
ไม่เท่าเทียม! ปธ. เซบีย่า โวย บาร์ซ่า-มาดริด ได้รับการปฏิบัติต่างจากทีมอื่น
วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด พบ บาร์เซโลน่า วันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. 68
เรอัล มาดริด พบ บาร์เซโลน่า : อยากแก้แค้น! วัลเวร์เด้ ลั่นชุดขาวสุดมุ่งมั่นอัด บาร์ซ่า คว้าแชมป์ซูเปร์โกปา
อีกสองนาทีต่อมา กูร์กตัวส์ ปฎิเสธโอกาสทองขึ้นนำของ บาร์ซ่า อีกเมื่อปัดลูกโขกของ ราฟินญ่า ออกไปอย่างเหลือเชื่อ
และเมื่อทำไม่ได้นาทีที่ 5 เรอัล มาดริด สวนกลับมาครั้งแรกได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ทันที จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ แทงขึ้นหน้าให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กระชากเข้าไปก่อนโยกหลอกแนวรับบาร์เซโลน่าเข้าไปซัดผ่าน วอยเชียค เซสนี่ เข้าไปอย่างเฉียบขาด
แต่หลังจากนั้น นาที 22 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แทงบอลให้ ลามีน ยามาล โชว์ฟอร์มร้ายกาจลากดวลแนวรับชุดขาวก่อนซัดเบียดเสาแรกหมดสิทธิ์ที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จะป้องกันให้ บาร์เซโลน่า ไล่ตีเสมอ เรอัล มาดริด 1-1
นาที 36 เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า มาทำเสียจุดโทษหลังไปยันใส่ กาบี ก่อนผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ บาร์ซ่า แซงขึ้นนำ 2-1
เท่านั้นไม่พอ อีกสามนาทีต่อมา นาที 39 แฟนชุดขาวเงียบกันกริบเมื่อมาเสียเม็ดที่สามจากจังหวะที่ ชูลส์ กุนเด้ เปิดมาอย่างแม่นให้ ราฟินญ่า โฉบมาโขกผ่านมือ กูร์กตัวส์ เข้าไปสุดงดงามพร้อมพา บาร์ซ่า นำห่าง 3-1
ก่อนช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 45+10 บาร์เซโลน่า จะมาได้เม็ดที่สี่หลังบอลสวนกลับเร็วมาถึง ราฟินญ่า ก่อนจ่ายให้ อเลฆานโดร บัลเด้ เติมมาซัดบอลเข้าจมก้นตาข่ายพา บาร์ซ่า นำโด่ง 4-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ นาที 48 บาร์เซโลน่า มาได้เม็ดที่ห้านำโด่งไปไกลหลัง มาร์ก กาซาโด้ แทงบอลให้ ราฟินญ่า หลุดเข้าไปซัดเข้าไปตุงตาข่ายให้ บาร์เซโลน่า นำเรอัล มาดริด 5-1
แต่นาที 57 วอยเชียค เซสนี่ นายด่านของบาร์ซ่า ต้องโดนใบแดงไล่ออก หลังผู้ตัดสินวิ่งไปเช็กมอนิเตอร์ข้างสนามหลังได้รับสัญญาจาก วีเออาร์ หลังมือกาวชาวโปลออกมาตัดฟาวล์ เอ็มบัปเป้ นอกกรอบ ทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องเหลือแค่ 10 คน ก่อนที่ อันซี่ ฟลิค จะเปลี่ยนเอา อินากี้ เปนญ่า ผู้รักษาประตูสำรองลงมาแทน กาบี
และจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบกว่า 20 หลา โรดรี้โก้ วิ่งมาซัดหนีกำแพงไปทางเสาไกลบอลพุ่งโค้งเบียดเสาสองเข้าไปชนิดที่ เปนญ่า หมดสิทธิ์ป้องกัน ช่วยให้ เรอัล มาดริด ไล่ตามมา 2-5
แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาร์เซโลน่า ไล่อัดถลุงยับใส่ เรอัล มาดริด ขาดลอย 5-2 ผงาดคว้าแชมป์ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ หรือ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ไปครองเป็นสมัยที่ 15
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ลูกัส บาซเกซ, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า - โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ - คีลิยัน เอ็มบัปเป้
บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) : วอยเชียค เซสนี่ - ชูลส์ กุนเด้, เปา กูบาร์ซี่, อินญีโก้ มาร์ตีเนซ, อเลฆานโดร บัลเด้ - มาร์ก กาซาโด้, เปดรี้ - ลามีน ยามาล, ปาโบล กาบี, ราฟินญ่า - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
https://udm88.net/
สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 UFA DIAMOND สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.ufadm8.com/register.php
สอบถามเพิ่มเติม